เทวดาน่ารู้

อัพเดต! อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปี 2566 ใครต้องจ่าย? ต้องจ่ายเท่าไหร่?

อยากมีอสังหาริมทรัพย์เป็นของตัวเองต้องรู้! ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างคืออะไร? ต้องจ่ายหรือไม่? เราจะมาไขข้อสงสัยไปพร้อม ๆ กัน

ก่อนอื่นเลยทุกท่านอาจยังไม่ทราบว่า “ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง” ถูกนำมาแทนที่ “ภาษีโรงเรือนและที่ดิน” และ “ภาษีบำรุงท้องที่” มาตั้งแต่ปี 2562 เนื่องด้วยความทับซ้อนทางกฏหมาย ทำให้มีการบังคับใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมาตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2562 และมีผลต่อการเก็บภาษีตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นมา แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19  รัฐบาลก็ออกประกาศปรับลดภาษีมาจนถึงปี 2566 ทำให้ในปีถัด ๆ ไป เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอาจไม่คุ้นเคยกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ดังนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจ่ายภาษีในปี 2567 เราจึงรวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมาให้ในบทความนี้…

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คืออะไร?

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “ภาษีที่ดิน” คือ การเรียกเก็บภาษีที่เกี่ยวข้องกับการครอบครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ตั้งอยู่บนที่ดินนั้น การคำนวณจะขึ้นอยู่กับมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น ๆ โดยปกติแล้วจะใช้ราคาตลาดหรือการประเมินมูลค่าทางที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อกำหนดอัตราภาษีที่เหมาะสม ซึ่งการเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะเป็นหน้าที่ของเจ้าของที่ดินหรือเจ้าของสิ่งปลูกสร้าง โดยผู้ที่เสียภาษีจะต้องมีเงื่อนไข ดังนี้

  1. เจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ (ดูตามโฉนด ไม่ใช่ทะเบียนบ้าน)
  2. ผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นทรัพย์สินของรัฐ (สามารถเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้)

โดยเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมของทุกปีจะมีหน้าที่เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปีนั้นเป็นต้นไป ในกรณีที่มีผู้ครอบที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมากกว่า 1 คนขึ้นไป ทุกคนจะต้องรับผิดชอบภาษีดังกล่าวร่วมกัน รวมถึงในกรณีที่เจ้าของที่ดินและเจ้าของสิ่งปลูกสร้างไม่ใช่คนเดียวกัน ก็จะต้องเสียภาษีเฉพาะที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ตนเองครอบครอง

วิธีการคำนวนภาษีที่ดิน ฉบับอัพเดตปี 2566

วิธีการคำนวนภาษีที่ดิน ฉบับอัพเดตปี 2566

1. ที่ดินที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง

ภาษีที่ต้องจ่าย = มูลค่าที่ดิน* x อัตราภาษี

2. ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

ภาษีที่ต้องจ่าย = (มูลค่าที่ดิน* + มูลค่าสิ่งปลูกสร้าง**) x อัตราภาษี

3. ห้องชุด

ภาษีที่ต้องจ่าย = มูลค่าห้องชุด***  x อัตราภาษี

*มูลค่าที่ดิน = ราคาประเมินทุนทรัพย์ (ต่อ ตร.ว.) x ขนาดพื้นที่ดิน

**มูลค่าสิ่งปลูกสร้าง = (ราคาประเมินทุนทรัพย์โรงเรือนสิ่งปลูกสร้าง (ต่อ ตร.ม.) x ขนาดพื้นที่สิ่งปลูกสร้าง) – ค่าเสื่อมราคา

***มูลค่าห้องชุด = ราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุด (ต่อ ตร.ม.) x ขนาดพื้นที่ห้องชุด (ตร.ม.)

ประเภทและอัตราการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2566

ประเภทและอัตราการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2566

ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม

สำหรับที่ดินที่มีการนำมาใช้ประโยชน์ทางด้านเกษตรกรรม จะต้องเสียภาษีในอัตรา 0.01 – 0.1% ซึ่งแบบได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

  • บุคคลธรรมดา จะต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามอัตรา ดังนี้

    มูลค่าที่ดิน

    อัตราภาษี

    มูลค่าเท่ากับ

    0-50 ล้านบาท

    ได้รับการยกเว้นภาษี

     

    50-125 ล้านบาท

    0.01%

    ล้านละ 100 บาท

    125-150 ล้านบาท

    0.03%

    ล้านละ 300 บาท

    150-550 ล้านบาท

    0.05%

    ล้านละ 500 บาท

    550-1,050 ล้านบาท

    0.07%

    ล้านละ 700 บาท

    1,050 ล้านบาทขึ้นไป

    0.10%

    ล้านละ 1,000 บาท

  • นิติบุคคล จะต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามอัตรา ดังนี้

    มูลค่าที่ดิน

    อัตราภาษี

    มูลค่าเท่ากับ

    0-75 ล้านบาท

    0.01%

    ล้านละ 100 บาท

    75-100 ล้านบาท

    0.03%

    ล้านละ 300 บาท

    100-500 ล้านบาท

    0.05%

    ล้านละ 500 บาท

    500-1,000 ล้านบาท

    0.07%

    ล้านละ 700 บาท

    1,000 ล้านบาทขึ้นไป

    0.10%

    ล้านละ 1,000 บาท

ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย

สำหรับที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย จะต้องเสียภาษีในอัตราตั้งแต่ 0.02 – 0.1% โดยแบ่งตามประเภทของเจ้าของที่ดิน ดังนี้

  • บุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหลังเดียว จะต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามอัตรา ดังนี้

    มูลค่าที่ดิน

    อัตราภาษี

    มูลค่าเท่ากับ

    0-50 ล้านบาท

    ได้รับการยกเว้นภาษี

     

    50-75 ล้านบาท

    0.03%

    ล้านละ 300 บาท

    75-100 ล้านบาท

    0.05%

    ล้านละ 500 บาท

    100 ล้านบาทขึ้นไป

    0.10%

    ล้านละ 1,000 บาท

  • บุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของเฉพาะสิ่งปลูกสร้างหลังเดียว จะต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามอัตรา ดังนี้

    มูลค่าที่ดิน

    อัตราภาษี

    มูลค่าเท่ากับ

    0-10 ล้านบาท

    ได้รับการยกเว้นภาษี

     

    10-50 ล้านบาท

    0.02%

    ล้านละ 200 บาท

    50-75 ล้านบาท

    0.03%

    ล้านละ 300 บาท

    75-100 ล้านบาท

    0.05%

    ล้านละ 500 บาท

    100 ล้านบาทขึ้นไป

    0.10%

    ล้านละ 1,000 บาท

  • บุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง 2 หลังขึ้นไป จะต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามอัตรา ดังนี้

    มูลค่าที่ดิน

    อัตราภาษี

    มูลค่าเท่ากับ

    0-50 ล้านบาท

    0.02%

    ล้านละ 200 บาท

    50-75 ล้านบาท

    0.03%

    ล้านละ 300 บาท

    75-100 ล้านบาท

    0.05%

    ล้านละ 500 บาท

    100 ล้านบาทขึ้นไป

    0.10%

    ล้านละ 1,000 บาท

ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม

เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่นำมาใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ โดยถูกนำมาใช้ในลักษณะออฟฟิศ สำนักงาน โรงแรม หรือแม้แต่ธุรกิจร้านอาหาร โดยอัตราภาษีตั้งแต่ 0.3 – 0.7% ดังนี้

มูลค่าที่ดิน

อัตราภาษี

มูลค่าเท่ากับ

0-50 ล้านบาท

0.3%

ล้านละ 3,000 บาท

50-200 ล้านบาท

0.4%

ล้านละ 4,000 บาท

200-1,000 ล้านบาท

0.5%

ล้านละ 5,000 บาท

1,000-5,000 ล้านบาท

0.6%

ล้านละ 6,000 บาท

5,000 ล้านบาทขึ้นไป

0.7%

ล้านละ 7,000 บาท

 

ที่ดินรกร้างว่างเปล่า

เป็นที่ดินที่ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ โดยปล่อยให้ที่ดินดังกล่าวเป็นที่รกร้างว่างเปล่า จะต้องเสียภาษีที่ดินว่างเปล่าตั้งแต่ 0.3 – 0.7% เช่นกัน โดยคำนวณได้ ดังนี้

มูลค่าที่ดิน

อัตราภาษี

มูลค่าเท่ากับ

0-50 ล้านบาท

0.3%

ล้านละ 3,000 บาท

50-200 ล้านบาท

0.4%

ล้านละ 4,000 บาท

200-1,000 ล้านบาท

0.5%

ล้านละ 5,000 บาท

1,000-5,000 ล้านบาท

0.6%

ล้านละ 6,000 บาท

5,000 ล้านบาทขึ้นไป

0.7%

ล้านละ 7,000 บาท

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีขั้นตอนการจ่ายอย่างไรบ้าง?

โดยปกติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต้องจ่ายภายในเดือนเมษายนของทุกปี แต่ในบางปีอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามกำหนดของรัฐบาล ซึ่งส่วนใหญ่จะขยายระยะเวลาการชำระออกไป ซึ่งวิธีการดำเนินขั้นตอนการจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีขั้นตอน ดังนี้

  1. เจ้าหน้าที่จาก อปท. จะทำการสำรวจทรัพย์สินพื้นที่เจ้าของบ้าน โดยมีระยะเวลาคำนวณมูลค่าประมาณ 15 วัน โดยวัดขนาดของที่ดินด้วยหน่วยตารางวาแบบเต็มแปลน วัดขนาดสิ่งปลูกสร้างด้วยหน่วยที่ตั้งอยู่บนดินทั้งหมดด้วยหน่วงตารางเมตร และทำการสำรวจอายุประเภท ลักษณะของทรัพย์สิน 
  2. จากนั้นจะสรุปจำนวน ประเภท และราคาทั้งหมดแล้วลงบัญชีรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแก่ผู้ต้องเสียภาษีเป็นรายบุคคล โดยจะได้รับข้อมูล 4 ส่วน คือ รายการที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ราคาประเมินทุนทรัพย์ อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จำนวนยอดภาษีที่ต้องชำระทั้งหมด
  3. เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะต้องไปจ่ายภาษีตามที่กำหนด ณ สถานที่ที่กำหนดไว้ในเขตที่สิ่งปลูกสร้างตั้งอยู่ โดยสามารถไปเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้ที่องค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) โดยแบ่งเป็น 4 แบบ คือ
  • กรุงเทพฯ สามารถชำระได้ที่สำนักงานเขตในพื้นที่ที่ทรัพย์สินตั้งอยู่ 
  • พัทยา สามารถชำระได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา 
  • จังหวัดอื่น ๆ สามารถชำระได้ที่สำนักงานเทศบาล, ที่ทำการขององค์การบริหารส่วนตำบล, ที่ทำการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีกฎหมายกำหนด หรือสถานที่อื่นที่ผู้บริหารท้องถิ่นกำหนด รวมทั้งจุดบริการเคลื่อนที่ที่ อปท. กำหนด
  • หรือหากต้องการชำระสามารถจ่ายภาษีที่ดินบ้านหลังแรก ภาษีที่ดินคอนโด ภาษีที่ดินใหม่ ภาษีที่รกร้างว่างเปล่า และภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้ที่สำนักเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น , ไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ , ชำระผ่านตู้ผ่านตู้ ATM หรือจ่ายออนไลน์กับธนาคารกรุงไทยได้ทุกสาขา
  1. เจ้าหน้าที่จะดำเนินการเร่งรัดภาษีค้างชำระกับผู้ที่ไม่มาจ่ายภาษีตามกำหนด
  2. ในกรณีที่เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต้องการคัดค้าน อุทธรณ์ ฟ้องคดีภาษี หรือต้องการแจ้งยอดภาษีที่ไม่ถูกต้อง จะต้องแจ้งแก่ผู้บริหารท้องถิ่นภายใน 30 วันหลังจากได้รับใบแจ้งจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
  3. ในกรณีที่จ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจ่ายภาษีเกิน สามารถยื่นเรื่องการขอคืนภาษีผ่าน เว็บไซต์ของกรมสรรพากรได้

หากจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างช้า มีเบี้ยปรับเท่าไหร่?

  1. เบี้ยปรับ 40% ของภาษีที่ค้างชำระ หากมาชำระภาษีล่าช้า แต่ชำระเกินระยะเวลาที่กำหนดตามที่หนังสือแจ้งเตือนระบุไว้
  2. เบี้ยปรับ 20% ของภาษีที่ค้างชำระ หากมาชำระภาษีล่าช้า แต่ชำระภายในระยะเวลาที่กำหนดตามที่หนังสือแจ้งเตือนระบุไว้
  3. เบี้ยปรับ 10% ของภาษีที่ค้างชำระ หากมาชำระภาษีล่าช้า แต่ชำระก่อนได้รับหนังสือแจ้งเตือน
  4. ดอกเบี้ยเงินเพิ่ม 1% ต่อเดือน ของภาษีที่ค้างชำระ หากมาชำระภาษีล่าช้าโดยนับตั้งแต่วันที่การชำระเกินระยะเวลาที่กำหนดตามที่หนังสือแจ้งเตือนระบุไว้
  5. ดอกเบี้ยเงินเพิ่ม 0.5% ต่อเดือน ของภาษีที่ค้างชำระ หากมาชำระภาษีล่าช้าโดยนับตั้งแต่วันที่การชำระเกินระยะเวลาที่กำหนดตามที่หนังสือแจ้งเตือนระบุไว้ แต่ในกรณีที่ผู้บริหารท้องถิ่นให้ขยายกำหนดเวลาชำระภาษี และได้ชำระภายในกำหนดเวลาที่ขยายให้
  6. โทษจำคุกสูงสุด 2 ปี พร้อมค่าปรับ 40,000 บาท หากผู้ชำระนำหลักฐานเท็จมายืนยันการชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทุกการทุจริต ทางองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นจะปรับยกเว้นแต่ใบแจ้งภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนิติบุคคลเป็นคนกระทำผิดเอง จะมีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากความผิดเป็นฝ่ายนิติบุคคลจริง จะถูกลงโทษตามกฎเช่นเดียวกัน

เบี้ยปรับอาจงดได้ในกรณีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างถูกยึดหรืออายัดตามกฎหมาย โดยเราจะต้องยื่นคำร้องเป็นหนังสือต่อผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อของดเบี้ยปรับของภาษีที่ค้างชำระ

สรุป

เรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นง่ายนิดเดียว เพียงแค่เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ต้องหมั่นตรวจสอบที่ดินของตนเองอยู่เสมอว่าเป็นที่ดินแบบใด มีมูลค่าเท่าใด ต้องจ่ายภาษีเท่าใด และแต่ละปีมีกำหนดจ่ายเมื่อใด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฏหมายและเพื่อสิทธิประโยชน์ของตนเองด้วยเพียงเท่านี้ก็สามารถถือครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้อย่างถูกต้องแล้ว!